ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่มีความแปรปรวนทั้งร้อน ทั้งหนาว และฝนตก ทำให้สภาพผิวของเราถูกทำร้ายในทุก ๆ วันโดยเฉพาะ ผิวหน้า ที่จะต้องเผชิญกับมลภาวะแบบเต็ม ๆ ทำให้ผิวหน้าของเรายิ่งเสื่อมโทรมมากยิ่งขึ้น นอกจากยังมีพฤติกรรมอีกหลายอย่างที่ทำลายผิวหน้า ทั้งการแต่งหน้า การทำความสะอาดผิวหน้า ที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำร้ายผิว ทำให้ผิวของเราดูเสื่อมโทรมก่อนวัยอันควร และมีปัญหาเรื่อง สิว ริ้วรอย จุดด่างดำ ตามมาอีกมากมาย
บทความนี้เราต้องการให้ทุกคนลุกขึ้นมาดูแลผิวหน้าของตัวเอง ให้มีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น เราจึงได้รวบรวม วิธีการดูแลผิวหน้า วิธีการเลือก 10 ครีมบำรุงผิวหน้า รวมถึงแนะนำครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อที่ได้รับความนิยม มีความปลอดภัยต่อผิว ช่วยให้ผิวหน้าของคุณ ขาวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย อย่างปลอดภัย
ครีมบำรุงผิวหน้าแต่ละตัวมักจะมีส่วนผสมที่ให้การดูแลผิวแตกต่างกันออกไป โดยเราควรพิจารณาจากช่วงเวลาที่ใช้ รวมไปถึงปัญหาผิวและส่วนผสมที่อยู่ในครีมก่อนทุกครั้ง เพื่อให้เห็นผลมากที่สุด
ช่วงเวลาที่ใช้เป็นสิ่งที่ใครหลายคนมองข้าม เพราะมักจะคิดว่าครีมบำรุงผิวตัวไหนก็ใช้ได้เหมือนกันหมด ซึ่งเราสามารถแบ่งครีมบำรุงผิวหน้าออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ครีมบำรุงผิวหน้ากลางวัน และกลางคืน
ครีมบำรุงผิวหน้ากลางวัน หรือ เดย์ครีม (Day Cream) มักจะมีเนื้อครีมเบาบาง เกลี่ยง่าย โดยบางแบรนด์อาจไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะยิ่งทำให้ผิวขับน้ำมันออกมามากขึ้น เมื่อเผชิญกับความร้อน และแสงแดด ซึ่งเดย์ครีมส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมหลักที่ช่วยให้ความชุ่มชื่น กักเก็บน้ำในผิวไม่ให้ระเหยออกไประหว่างวัน บางรุ่นอาจใส่สารกันแดด โดยระบุเป็น SPF และ PA เพื่อปกป้องผิวขึ้นไปอีกขั้น หากต้องการความสะดวก และไม่ต้องทาครีมหลายตัว ก็สามารถเลือกแบบมีสารกันแดดได้
ครีมบำรุงผิวหน้ากลางคืน หรือ ไนท์ครีม (Night Cream) มักมีเนื้อสัมผัสหนัก และเข้มข้น มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก และหลากหลายมากกว่าเดย์ครีม เพราะกลางคืนเป็นช่วงเวลาสำหรับการพักผ่อนที่ไม่มีมลภาวะ หรือปัจจัยอื่น ๆ มารบกวนผิว ทำให้สารบำรุงในเนื้อครีมสามารถทำงานฟื้นฟูผิวได้อย่างเต็มที่ และมีประสิทธิภาพ บางรุ่นอาจมีการใช้ไวท์เทนนิ่ง หรือส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวขาว ซึ่งสารนี้จะทำให้ผิวมีสภาพที่ไวต่อแสง และอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย หากใช้ในเวลากลางวัน หรือบางตัวอาจมีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อช่วยกักเก็บน้ำ และสารบำรุงได้ดีมากยิ่งขึ้น
สิ่งสำคัญหนึ่งในการเลือกครีมบำรุงผิวหน้า คือ ต้องรู้จักผิวของตัวเองก่อนว่า เป็นผิวแบบไหนและมีปัญหาอะไรบ้าง โดยปัญหาเหล่านั้น คือ สิ่งที่เราควรมองหาในครีม หรือส่วนที่เราต้องเน้นการบำรุงก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อนั่นเอง
หากต้องการผิวขาวกระจ่างใส ควรเลือกครีมที่มีสารไวท์เทนนิ่งเป็นส่วนประกอบ ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดเมลานิน และช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำ กระ และฝ้าบนใบหน้า เช่น อาร์บูติน (Arbutin), กรด AHAs รวมไปถึงอนุพันธ์วิตามินซีต่าง ๆ โดยอาจเลือกใช้เวลากลางคืนเป็นไนท์ครีม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม สารไวท์เทนนิ่งบางชนิดอาจเป็นอันตรายผิวหนัง เราควรตรวจสอบให้ดีก่อนทุกครั้งโดยอาจเลือกแบรนด์ดังอย่างเครื่องสำอางเคาน์เตอร์แบรนด์ และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากต่างประเทศที่ได้รับการรับรองจากทั่วโลก หรือแบรนด์ที่มีฉลาก อย. และใบรับรองในระดับสากลที่ปลอดภัย
สำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ควรเลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น อย่างกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid), คอลลาเจน (Collagen), เซราไมด์ (Ceramide) หรืออีลาสติน (Elastin) เป็นต้น โดยจะต้องเป็นส่วนประกอบหลักอันดับต้น ๆ ของส่วนผสมที่ระบุไว้ในฉลาก ซึ่งสารทั้งหมดเหล่านี้จะช่วยทำให้ผิวมีความเนียนนุ่ม รู้สึกได้ทันทีว่าอิ่มนำ และแลดูสุขภาพดี ทั้งยังเป็นการกระชับผิวและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวไปด้วยในตัว ป้องกันหน้าแห้งตึงและลอกเป็นขุย สามารถใช้ได้ทั้งกลางวัน หรือกลางคืน เพื่อบำรุงผิวตลอด 24 ชม. อีกด้วย
ใครที่มีปัญหาสิว หรือผิวมัน แนะนำให้เลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรืออาจมองหาส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการเกิดน้ำมันในผิวจะดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ผิวหน้าจะมีความมัน แต่ผิวหนังของเรายังคงต้องการความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของผิวที่แข็งแรง ดังนั้น เราควรเลือกครีมที่ให้ความชุ่มชื้นแต่มีเนื้อที่บางเบา หากมีสิวร่วมด้วยก็ควรมองหาครีมบำรุงที่มีตัวยารักษาการเกิดสิว หรือใช้ครีมบำรุงร่วมกับยาแต้มสิว เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดียิ่งขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิวก็มีหลายประเภทและมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไปทั้งการระคายเคือง เชื้อรา ฮอร์โมน การอุดตัน ฯลฯ จึงควรปรึกษาแพทย์ร่วมด้วยเพื่อขจัดปัญหาได้อย่างตรงจุดอีกด้วย
สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย นอกจากจะมองหาความชุ่มชื้นให้กับผิวแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณา คือ สารเติมแต่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารกันเสียอย่าง พาราเบน (Paraben) หรือ Phenoxyethanol รวมไปถึงน้ำหอม, สารแต่งกลิ่น, สารลดแรงตึงผิว, แอลกอฮอล์ เป็นต้น ซึ่งสารจำพวกนี้มักจะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย หากไม่แน่ใจว่าครีมที่เลือกนั้นจะปลอดภัยกับเราหรือไม่ ให้ลองทดสอบโดยทาลงบนที่ท้องแขนก่อน และรอดูอาการประมาณ 1-2 วัน แม้ว่าจะไม่มีอาการผิดปกติอะไร ระหว่างใช้ก็ควรสังเกตความเปลี่ยนแปลงของผิวร่วมด้วยเพื่อความมั่นใจ
นอกจากส่วนผสมที่เหมาะกับแต่ละปัญหา หรือสภาพผิวที่ได้กล่าวไปแล้ว เราอาจมองหาส่วนผสม และสารบำรุงผิวเพิ่มเติม โดยอาจเลือกครีมที่ใช้ส่วนผสมหรือสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า สารนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและร่างกายของเรา เช่น สารสกัดจากชาขาว สารสกัดจากน้ำมันมะกอก หรือหากต้องการครีมที่มีกลิ่นหอมและอ่อนโยนต่อผิว ก็ควรเลือกครีมที่ใช้น้ำมันหอมระเหยแทนน้ำหอม นอกจากนี้ หากเป็นกังวลเรื่องผิวที่มีริ้วรอย ก็อาจเลือกครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน (Collagen) หรือเรตินอล (Retinol) ประกอบด้วย
มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวทรงพลังจาก Olay จัดเต็มเรื่องลดเลือนริ้วรอย ไม่หนักหน้า เนื้อบางเบาราวกับวิปครีม ผสานอะมิโน-เปปไทด์ คอมเพล็กซ์ และสารสกัดจากผลคารอบ แถมยังคุมมันนาน 8 ชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยี Active Rush มอบความชุ่มชื้นได้ 1,000 เท่า ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้เริ่ด! ไม่ต้องกลัวหน้ามัน ไม่อุดตันรูขุมขน แถมซึมลงผิวได้เร็ว แต่งหน้าติดทนมากขึ้น สบายผิวเว่อร์
เนื้อสัมผัส : เนื้อวิปครีมสีขาว บางเบา ซึมเร็ว ไม่หนักหน้า
เหมาะกับใคร : ผู้ที่มีริ้วรอย หรือต้องการความชุ่มชื้นให้กับผิว คนหน้ามันใช้ได้
ปริมาณ : 50 g.
ราคา : 1,199 บาท (g. ละ 23.98 บาท)
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป Lotus’s, BigC, Tops, The Mall, Watsons, Eveandboy, Lazada และ Shopee
ผิวกระจ่างใสดูมีออร่าด้วย SK-II GenOptics Aura Essence ที่โดดเด่นด้วยส่วนประกอบจากพิเทร่า™ เข้มข้น และ GenOptics Aura Complex ที่จะช่วยลดเลือนการก่อตัวของจุดด่างดำทั้งที่มองเห็นและที่ซ่อนอยู่ภายใน ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำโดยเข้าไปทำลายหมอกควันที่ปกคลุมอยู่ใต้ชั้นผิว ปรับสีผิวขาวกระจ่างใสขึ้น และเปล่งประกายอีกขั้นด้วย D-Melano P3C™ ที่จะลดความหมองและจุดด่างดำ จะใช้เป็นเดย์ครีมก็ได้หรือไนต์ครีมก็ดี ไม่ทิ้งความเหนอะหรือความมันไว้บนผิวด้วย
เนื้อสัมผัส : เนื้อเอสเซนส์บางเบา มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ซึมซาบสู่ผิวไว
เหมาะกับใคร : คนที่มีปัญหาจุดด่างดำ ฝ้า กระ รอยดำ รอยแดง
ปริมาณ : 30 ml. / 50 ml.
ราคา : 5,300 บาท (ml. ละ 176.67 บาท) / 7,700 บาท (ml. ละ 154 บาท)
พิกัด : มีจำหน่ายที่เคาน์เตอร์ SK-II ทั่วประเทศ
ที่โดดเด่นที่สุดเลยคือ เขามี Aqua Posae Filiformis มาลดการอักเสบของผิว และฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงสดใสขึ้น และนอกจากจะช่วยบำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใสแล้ว ตัวนี้ยังมีส่วนผสมของ Capryloyl Salicylic Acid หรือ LHA มาช่วยต้านแบคทีเรีย P.Acne ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และลดการอักเสบของสิวด้วย
เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมเจล ไม่เหนอะหนะผิว ทาไปแล้วให้ความชุ่มชื้นผิว
เหมาะกับใคร : คนที่เป็นสิวง่าย ผิวอักเสบ แพ้ง่ายบ่อย ๆ
ปริมาณ : 40 ml.
ราคา : 990 บาท (ml. ละ 24.75 บาท)
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าทั่วไป, Lazada
ครีมบำรุงผิวหน้าตัวนี้ทั้งเดย์ครีมและไนท์ครีมของเค้าจะช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใส ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ ดูเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ แถมมีสาร Whitening เข้มข้น B-Resorcinol ที่ดีกว่า Whitening ทั่วไปถึง 6 เท่า ทีเด็ดอยู่ตรงที่ช่วยให้รอยสิวดูจางลง ลดเลือนจุดด่างดำ ความหมองคล้ำต่าง ๆ รวมไปถึงกระ ฝ้าแดดด้วย ส่วน Day Cream ก็เพิ่มสารกันแดดที่ SPF 30 เลยค่า
เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมสีขาว เนื้อค่อนข้างแน่น ให้ความชุ่มชื้นผิวดี
เหมาะกับใคร : เจอแดดอยู่บ่อย ๆ ใบหน้าหมองคล้ำ หรือมีจุดด่างดำและรอยดำจากสิว
ปริมาณ : 50 ml.
ราคา : 1,890 บาท (ml. ละ 37.8 บาท)
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
ตัวเดย์ครีมเค้ามาพร้อมกับ SPF 17 PA++ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV อีกทั้งยังช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปรับสีผิวให้ขาวได้ทันที เพราะมีคุณสมบัติเป็น Tone Up แถมยังลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ส่วนตัว Night Cream ก็ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ความหมองคล้ำเช่นกัน และช่วยฟื้นฟูสภาพผิว
เนื้อสัมผัส : Day Cream เนื้อสีขาวที่ช่วยปรับสีผิวได้ Night Cream เป็นเนื้อเจลครีมสีขาว ทาแล้วชุ่มชื่นดี และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทั้งสองตัวเลย
เหมาะกับใคร : ผิวหน้าหมองคล้ำอยากได้ความขาวกระจ่างใสแบบทันที
ปริมาณ : 50 ml.
ราคา : 399 บาท (ml. ละ 7.98 บาท)
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าทั่วไป, Lazada
เริ่มที่ Day Cream ของตัวนี้ก่อนดีกว่า ความดีของเขาก็คือเวลาทาแล้วหน้าจะขาวสว่างขึ้นนิดนึงด้วยนวัตกรรม White Speed และสารสกัดจากมะนาว นอกจากนี้ครีมกลางวันของตัวนี้ยังช่วยในเรื่องของจุดด่างดำบนผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ และปกป้องรังสี UV ด้วย SPF 20 PA+++ อีกด้วย ตามมาที่ครีมกลางคืน เขาช่วยซ่อมแซมผิว และฟื้นฟูสภาพผิวในตอนกลางคืน ให้กระจ่างใสครบถ้วยไปเลยค่า
เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมสีขาว บางเบา ซึมซาบเร็ว
เหมาะกับใคร : คนที่มีปัญหาจุดด่างดำ รอยสิว และฝ้าแดด
ปริมาณ : 50 ml.
ราคา : 239 บาท (ml. ละ 4.78 บาท)
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าทั่วไป, Lazada
ครีมบำรุงผิวหน้าเต้าหู้ยอดฮิตจากญี่ปุ่น ที่ครองใจสาว ๆ ตัวนี้เค้าชูโรงมาด้วยการที่ไม่ใส่สี ไม่มีน้ำมัน ปราศจากน้ำหอม เนื้อครีมจะออกข้น ๆ หน่อย ความสามารถของตัวนี้คือ ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ให้ความกระจ่างใส ปกป้องผิวจากรังสี UV ที่สำคัญเป็น 6 in 1 คือช่วยบำรุงผิวตั้งแต่การเป็น Essence, Lotion, Cream, Milk, Primer Base และเป็นมาสก์ผิวได้ด้วยนะ
เนื้อสัมผัส : เนื้อโลชั่น เกลี่ยง่าย ทาลงบนผิวแล้วให้ความรู้สึกผิวนุ่มลื่นดี และไม่มีกลิ่นน้ำหอม
เหมาะกับใคร : สาวผิวแพ้ง่ายที่ผิวขาดความชุ่มชื่น แห้งกร้าน ไม่สดใส
ปริมาณ : 100 ml.
ราคา : 499 บาท (ml. ละ 4.99 บาท)
พิกัด : Watsons, Tops Boots, Tsuruha, Isetan, Eveandboy และร้านขายของออนไลน์ทั่วไป
ความเด็ดของครีมบำรุงผิวหน้าตัวนี้อยู่ที่เป็น Brightening Cream มี Niacinamide, Ascorbyl Glucoside และ Lilium Candidum Flower Extract มาช่วยเพิ่มพลังให้ผิวหน้ากระจ่างใส นุ่มชุ่มชื้น ช่วยฟื้นบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ที่ค่อนข้างเข้มข้น นอกจากนี้แล้วยังช่วยปรับผิวหมอง ผิวคล้ำให้กระจ่างใสขึ้นอีกด้วย ตัวนี้เค้ายังบอกมาอีกว่า ‘ปราศจากน้ำมัน’ ทำให้ไม่อุดตันผิวด้วยนะ
เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมสีขาว บางเบา ไม่หนักผิว เกลี่ยง่าย ให้ความชุ่มชื้นผิวดี
เหมาะกับใคร : คนที่มีผิวคล้ำเสียสะสม หมองคล้ำง่ายโดยเฉพาะ
ปริมาณ : 50 ml.
ราคา : 699 บาท (ml. ละ 13.98 บาท)
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
ตอบโจทย์ในเรื่องผิวชุ่มชื่นไปอีก เพราะครีมบำรุงผิวหน้าตัวนี้จะช่วยเพิ่มมอยส์เจอร์ให้ผิว ช่วยให้ผิวนุ่ม ลดเลือนจุดด่างดำ แถมมีวิตามินบี 3 มาช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ที่สำคัญครีมบำรุงผิวหน้าแบบกลางวัน (Day Cream) เขามาพร้อมกับ SPF 24 PA++ แน่นอนว่าช่วยกันแดดไปในตัวด้วย ใช้ดีแบบนี้ต้องซื้อมาใช้ทั้งกลางวัน กลางคืนเลยล่ะค่ะ
เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมสีขาว เกลี่ยง่าย ทาลงบนผิวแล้วให้ความรู้สึกชุ่มชื่นผิว
เหมาะกับใคร : สาว ๆ ที่ต้องการมีผิวกระจ่างใสพร้อมมีผิวที่ชุ่มชื่น
ปริมาณ : 50 ml.
ราคา : 429 บาท (ml. ละ 8.58 บาท)
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าทั่วไป
จุดเด่นคือเค้าเน้นปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองหรือกำลังมีอาการแพ้อยู่โดยเฉพาะเลย ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา คือมี Palmitamide MEA ช่วยลดการคัน แสบ แดง ที่เกิดจากผิวแห้งได้อย่างดีจึงเหมาะกับคนที่ผิวแพ้และระคายเคืองจากผิวที่ขาดความชุ่มชื้น แถมใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย เด็กก็ใช้ได้ ไม่มีน้ำหอมและสารกันเสีย บวกกับเป็นสูตร Non-Comedogenic ที่ไม่อุดตันรูขุมขน
เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมสีขาว เนื้อเข้มข้น ไม่มีกลิ่นน้ำหอม
เหมาะกับใคร : ระคายเคืองจากผิวแห้ง เช่น แสบ แดง คัน เพราะมีสารที่ช่วยปลอบประโลมผิว
ปริมาณ : 100 ml.
ราคา : 1,390 บาท (ml. ละ 13.9 บาท)
พิกัด : ห้างสรรพสินค้าทั่วไป, Lazada
การเลือกครีมบำรุงนั้นมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงอยู่ไม่น้อย เพราะต้องพิจารณาทั้งสภาพปัญหาผิวของเรา รวมไปถึงส่วนผสมต่าง ๆ ซึ่งสามารถนำวิธีการเลือกพร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ หรือจะเลือกจาก 10 ครีมบำรุงผิวหน้า จะช่วยปรับสภาพผิวให้มีความสมดุลมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูให้ผิวหน้าแลดูมีสุขภาพดี และกระจ่างใสได้อย่างแน่นอน และถึงแม้ว่าเราจะเลือกครีมบำรุงผิวหน้าได้แล้ว ก็อย่าลืมว่าผิวหน้าของเราจะดีได้ไม่ใช่แค่การบำรุงด้วยครีมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของอาหาร การออกกำลังกาย รวมไปถึงความเครียดและมลภาวะ ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่จำทำให้สุขภาพผิวเสีย หรือเสื่อมก่อนวัย และหมั่นทาครีมกันแดด หรือครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวันอีกด้วย